เดี๋ยวนี้เทรนด์การออกกำลังกายกำลังมาแรงมาก ทำให้อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพขายดีและได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยพวกนาฬิกาที่มีฟังก์ชั่นเกี่ยวกับการดูแลในเรื่องสุขภาพต่าง ๆ อย่างเช่น
นาฬิกาวัดแคลอรี่ ที่จะบอกถึงการเผาผลาญแคลอรี่ในแต่ละกิจกรรมที่เราทำให้ได้รับรู้อย่างละเอียด ทำให้เราสามารถวางแผนในการกำจัดแคลอรี่ส่วนเกินออกมาในแต่ละจุดได้อย่างแม่นยำ ที่สำคัญยังสามารถดูข้อมูลย้อนหลังในแต่ละวันได้อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีข้อดีในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย เอาเป็นว่าถ้าคุณกำลังมองหา
นาฬิกาวัดแคลอรี่เพื่อสุขภาพและต้องการเลือกให้เหมาะสม ตรงกับเป้าหมายการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณหละก็ ตามมาทางนี้ได้เลยค่ะ กับ
นาฬิกาวัดแคลอรี่ให้เองว่าแล้วก็มาดูกันเลยค่ะ
แต่ก่อนอื่นทำความเข้าใจกับการวัดชีพจรก่อน หากต้องการคำนวนการใช้แคลอรี่แบบแม่นยำที่สุด หรือต้องการออกกำลังกายในแบบ การนับก้าวเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ คราวนี้การวัดระดับชีพจรจึงเข้ามามีบทบาท โดยสามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ ดังนี้
1.การวัดชีพจรแบบใช้สายคาดหน้าอก นับว่าเป็นการวัดชีพจรที่แม่นยำที่สุด สามารถใช้กับการออกกำลังกายแบบ Interval ได้ดี ค่าชีพจรตอบสนองในแบบ Real-time และต่อเนื่อง แต่การสวมใส่สายคาดนั้น อาจอึดอัดและไม่สะดวกสบายนัก เมื่อเทียบกับการวัดชีพจรในแบบต่อไป
2.การวัดชีพจรแบบไร้สายคาดหน้าอก เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากทุกแบรนด์ที่ต่างออกสินค้าใหม่ ๆ ในแบบ Optical-HR-Wrist-Based หรือ วัดชีพจรทางข้อมือ ซึ่งความแม่นยำนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละแบรนด์ แต่ความแม่นยำโดยรวมแล้วยังสู้การวัดชีพจรแบบใช้สายคาดหน้าอกไม่ได้ การวัดชีพจรแบบไร้สายคาดนี้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์หลาย ๆ คนที่ต้องการความสะดวกสบาย ความง่ายในการสวมใส่อย่างมาก
เลือกซื้อ
นาฬิกาวัดแคลอรี่กับคุณสมบัติที่ต้องมีดังนี้
1.การนับก้าว คำนวณปริมาณแคลอรี่ที่ใช้ในแต่ละวัน
2.ตรวจจับการเคลื่อนไหวของเราได้ 24 ชม.
3.ตรวจจับการหลับนอนของเรา หรือการงีบระยะสั้น ๆ ได้ด้วยประสิทธิภาพและคุณภาพการนอนหลับ
4. แจ้งเตือนได้หากเราหยุดเคลื่อนไหว หรืออยู่นิ่ง ๆ เกินไป
5.ตั้งเป้าหมาย การหลับ และ การเคลื่อนไหวในแต่ละวันได้ว่าอยากจะได้ซักเท่าไหร่
6. ง่ายต่อการสวมใส่ สามารถปรับระดับสายข้อมือได้
เพียงแค่นี้คุณก็สามารถเลือก
นาฬิกาวัดแคลอรี่ให้ตนเอง หรือซื้อไปฝากคนที่คุณรัก และห่วงใยได้แล้ว เพื่อสุขภาพที่ดีควรมีติดไว้นะคะ
#นาฬิกาวัดแคลอรี่
