เรื่อง: เริมที่ปาก
 
 264

My Name: mr.love ออฟไลน์
  • ดูรายละเอียด
28 ธ.ค. 20, 11:53:24น.
รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก
เริมที่ปากมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสๆเล็กๆที่มักขึ้นบริเวณริมฝีปาก ใครเป็นก็จะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนทุกครั้ง บางคนถึงขนาดมีไข้ร่วมด้วย และที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ เชื้อจะแฝงอยู่ในร่างกายเราและจะกลับมาเป็นซ้ำเวลาร่างกายเราอ่อนแอจึงเป็นโรคที่เป็นๆหายๆ

เริมคือ ?

เริมคือโรคติดต่อชนิดหนึ่ง เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Herpes simplex virus (HSV) โรคนี้จะพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่พบมากที่สุดในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ เชื้อไวรัสนี้ จะแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่
  • Herpes Simplex virus type 1 มักพบการติดเชื้อบริเวณปากหรือรอบๆ
  • Herpes Simplex virus type 2 เป็นการติดเชื้อที่บริเวณอวัยวะสืบพันธ์
เมื่อติดเชื้อไวรัสนี้แล้วเชื้อจะฝังอยู่ในร่างกายตลอด ถึงแม้ว่าโรคนี้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่มักจะหายเองได้ใน 1 – 2 สัปดาห์ และไม่ทพให้เกิดแผลเป็น

อาการของเริมที่ปาก ?

ผู้ที่เป็น เริมที่ปาก มักจะมีอาการอ่อนเพลีย อาจมีอาการคล้ายมีไข้นำมาก่อน 1 – 3 วัน เช่น ไข้สูง หรือ ไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว จากนั้นจะเกิดตุ่มมีน้ำใสๆ ตุ่มมักเกิดเป็นกลุ่มๆ ลักษณะตุ่มคล้าย อีสุกอีใส และ งูสวัด แต่เกิดในตำแหน่งและการแพร่กระจายของตุ่มที่แตกต่างกัน

เริมที่ปากติดต่อกันอย่างไร ?

  • เริมที่ปากสามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสเชื้อโดยตรงทางน้ำลาย เช่น การจูบ
  • การใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อ เช่น แก้วน้ำ จานชาม ช้อนส้อม
  • การมีเพศสัมพันธ์

ปัจจัยที่ทำให้เริมกลับมาเป็นอีก ?

  • ร่างกายอ่อนแอ
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • เครียด
  • แสงแดด

การดูแลรักษาเริมที่ปาก

พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสุขอนามัย แยกของใช้ เครื่องใช้ส่วนตัว รวมทั้งแก้วน้ำและช้อนเพื่อป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 6 – 8 แก้วต่อวันและรักษาความสะอาดบริเวณตุ่มพอง

คำถามที่พบบ่อย?

ติดเชื้อเริมที่ปาก ไม่เป็นซ้ำมาเป็นปี มีโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่นอยู่ไหม?

  • เชื้อเริมจะแพร่สู่ผู้อื่นได้ ในขณะที่คนไข้มีอาการ หากไม่มีอาการ ตัวเชื้อจะแฝงอยู่ในตัวคนไข้ แต่ไม่สามารถแพร่สู่ผู้อื่นได้

เริมรักษาหายหรือไม่ ?

  • ทั่วไปแล้วเริมจะสามารถหายได้หลังจาก 1 – 2 สัปดาห์ แม้ว่าแผลจะหายไป แต่เชื้อของเริมก็ยังคงอยู่ในร่างกาย ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

ป้องกันเริมได้อย่างไร ?

  • หลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการติดเชื้อทุกชนิด โดยการไม่ใช้ของร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อ ไม่สัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อโดยตรง เช่นการจูบ การมีเพศสัมพันธ์ หรือการดื่มน้ำแก้วเดียวกัน


“แม้ว่าเริมที่ปากจะเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงและเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นแล้วมีโอกาสกลับมาเป็นได้อีก แต่เราก็สามารถป้องกันและลดโอกาสการเกิดโรคได้ เพราะส่วนหนึ่งเริมเกิดจากพฤติกรรม หากหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดได้ โอกาสเกิดโรคก็จะลดลง”

อ่านข้อมูล เริมที่ปาก เพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.lovefoundation.or.th/post/herpes-labialis